Instagram (อินสตาแกรม) เป็นแอปพลิเคชั่นแชร์ภาพและแต่งภาพยอดฮิต ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านคน และกว่า 80% ของผู้ใช้งาน Instagram ทำให้บรรดาเจ้าของธุรกิจได้โอกาสโปรโมทสินค้าของตัวเอง ใช้สื่อโซเชียลประเภทนี้ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และตอบโจทย์ทางธุรกิจจนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหากใช้งานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามหลักการของ Instagram
แบ่งออกเป็น Personal Account และ Professional Account
แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายท่านที่อาจจะยังไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งาน Instagram และเจ้าของธุรกิจบางคนก็อาจจะยังเปิดร้านของตัวเองใน Instagram แบบผิดประเภทในโปรโมทสินค้า ซึ่งเราจะมาดูกันว่า Personal Account กับ Professional Account มีความแตกต่างกันอย่างไร
- Personal Account : บัญชีปกติที่ผู้ใช้งานมักใช้กัน เปรียบเสมือน Facebook Profile ซึ่งจะไม่มีเครื่องมืออะไร เน้นใช้ส่วนตัวทั่วไป ข้อดีคือเรียบง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรซับซ้อน
- Professional Account : บัญชีที่มีเครื่องมือต่างๆ เพิ่มเข้ามา เปรียบได้กับ Facebook Page เป็นการสร้างธุรกิจของเราที่มี “ลูกค้า” คอยติดตามความเคลื่อนไหวได้ และใน Instagram จะมีเครื่องมือเข้ามาช่วยจัดการและอำนวยความสะดวกร้านค้าได้มากขึ้น จึงต้องเปลี่ยนเป็นบัญชีเป็น Professional Account ซึ่งเป็นบัญชีมืออาชีพเพื่อให้ลูกค้าทราบว่าร้านค้าของคุณมีตัวตน
| วิธีการเริ่มต้นใช้งาน Professional Account
การสร้างตัวตนบน Instagram ด้วยเครื่องมือทางธุรกิจ “Professional Account” เริ่มต้นใช้งานง่ายๆ เพียงแค่ไปที่โปรไฟล์ร้านค้าของคุณบน Instagram แล้วคลิกที่ ขีดแนวนอน 3 ขีด ตามภาพตัวอย่าง
- เข้ามาที่ตั้งค่า แล้วคลิกที่ “บัญชีผู้ใช้”
- เมื่อคุณเลือก “บัญชีผู้ใช้” แล้วก็จะมีรายการขึ้นมาให้เลือกมากมาย ให้คุณคลิกที่ Professional Account “เปลี่ยนไปใช้บัญชีมืออาขีพ”
เมื่อคลิกเข้ามาแล้วจะมีบัญชีให้เลือกอยู่ 2 แบบ และมีข้อแตกต่างดังนี้
- Creator Account : เป็นบัญชีสำหรับบุคคลสาธารณะ เช่น ดารา นักเขียน นักร้อง Influencer บัญชีลักษณะนี้จะยังคงสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้
- Business Account : เป็นบัญชีสำหรับธุรกิจ มีเครื่องมือต่างๆ ครบครัน แต่เนื่องจากในส่วนนี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางธุรกิจ ร้านค้าต้องลงข้อมูลช่องทางการติดต่อ (อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ) ให้ครบถ้วน
ให้คุณเลือกที่ Business Account เนื่องจากธุรกิจของคุณเป็นสินค้า เช่น อาหาร ขนม เสื้อผ้า กระเป๋า จากนั้นให้คุณคลิกที่คำว่า “ถัดไป” ใต้ “ธุรกิจ” (Business Account)
- ถัดมาจะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นมาและมีข้อความแจ้งว่า “ยินดีต้อนรับสู่เครื่องมือธุรกิจ Instagram (ตามด้วยชื่อธุรกิจของคุณ)” หลังจากนั้นให้คุณคลิกที่ “ดำเนินการต่อ” จนกระทั่งมาถึงในส่วนของการเลือกหมวดหมู่ ให้คุณเลือกธุรกิจของคุณ เช่น “ร้านอาหาร”
- เมื่อทำการเลือกหมวดหมู่เรียบร้อยแล้ว ทาง Instagram จะให้คุณ “ตรวจสอบข้อมูลติดต่อของคุณ” ให้คุณกรอกอีเมล เบอร์ติดต่อ สถานที่ตั้งร้านค้า เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ “ถัดไป” ก็จะมีหน้าต่างให้คุณเชื่อมต่อกับ Facebook Page หากคุณต้องการเชื่อมต่อกับ Facebook ก็ดำเนินการตามที่ปรากฏได้เลย เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบก็จะกลับมาเข้าสู่หน้าโปรไฟล์ธุรกิจของคุณ
- จะมีเมนูปรากฏเพิ่มขึ้นมา 3 เมนู คือ แก้ไขโปรไฟล์ / การโปรโมท (การเข้าถึงธุรกิจของคุณ) / ติดต่อ (ทางโทรศัพท์) ซึ่งเมนูที่เพิ่มขึ้นมา หากลูกค้าต้องการติดต่อกับร้านของคุณก็จะสามารถกดที่ “ติดต่อ” จากด้านหน้าโปรไฟล์ร้านค้าใน Instagram ของคุณได้เลย
| การโพสต์และเพิ่ม # (Hashtag) ในคำบรรยาย
- เมื่อใดก็ตามที่คุณอัปโหลดรูป คุณจะสามารถพิมพ์ข้อความประกอบรูปภาพได้(1) นอกจากข้อความแล้วคุณควรใส่แฮชแท็ก (เครื่องหมายสี่เหลี่ยม (#) แล้วตามด้วยข้อความ) นี่เป็นเทคนิคในการเพิ่มยอดผู้ติดตาม ให้มากดชอบ (รูปหัวใจ) และติดตามเราได้ (Follow) เป็นการเพิ่มช่องทางในการค้นหาโพสต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ผู้ใช้งานจะสามารถค้นหาข้อความ โพสต์ รูปภาพ ผู้คน สิ่งที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกโซเชียลให้ค้นหาได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น เช่น คุณเปิดร้านอาหารไทย คุณก็สามารถใช้แฮชแท็ก #อาหารไทยโบราณ ได้ แล้วเมื่อผู้ใช้งานคลิกไปที่แฮชแท็กนี้ การพูดถึงเกี่ยวข้องกับอาหารไทยโบราณก็จะปรากฏขึ้นมามากมาย และยังทำให้คนในโซเชียลมีเดียเข้าถึงโพสต์ของคุณได้มากขึ้นอีกด้วย
- ถัดลงไปจะปรากฏหัวข้อ “แท็กผู้คน” (2) คุณสามารถแท็กชื่อเพื่อนของคุณลงในโพสต์ หรือเวลาที่ลูกค้ามาใช้บริการร้านอาหารของคุณ เขาก็สามารถแท็กชื่อเพื่อนที่มาทานอาหารที่ร้านคุณได้ด้วย ซึ่งรูปที่คุณหรือลูกค้าของคุณโพสต์พร้อมกับแท็กชื่อเพื่อนไปนั้น จะไปปรากฏอยู่บนหน้า Instagram ของคุณที่แท็กเอาไว้ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ใช้แต่ละคน)
- หัวข้อ “เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง”(3) ทุกครั้งเวลาที่คุณจะโพสต์รูป อย่าลืมระบุตำแหน่งร้านของคุณด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าหาร้านของคุณได้ง่ายขึ้น ลูกค้าจะได้รู้ว่าร้านของคุณตั้งอยู่ตรงไหน
- หัวข้อ “และโพสต์ไปที่”(4) ถ้าคุณต้องการให้รูปที่คุณโพสต์ แชร์ต่อไปที่อื่น (Facebook, Twitter, Tumblr) ให้คุณเลื่อนแถบด้านหลังจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
- เมื่อใส่สิ่งที่ต้องการโพสต์เรียบร้อยแล้ว ให้กด “แชร์” (5) ที่อยู่มุมขวาบน
| การโปรโมทธุรกิจของคุณบน Instagram
- เข้าไปที่โปรไฟล์ของคุณ จากนั้นเลือกโพสต์ที่คุณต้องการโปรโมท โดยคลิกคำว่า “โปรโมท” ที่ปรากฏอยู่ด้านขวาล่าง
- จากนั้นหน้าต่างจะเข้าสู่ “เลือกว่าจะส่งผู้คนไปที่ไหน” หากคุณต้องการให้ลูกค้าที่เห็นสินค้าที่โปรโมทติดต่อมาที่ช่องทางใด ก็มีตัวเลือกให้คุณดังนี้ โปรไฟล์ของคุณ / เว็บไซต์ของคุณ / DM (Direct Message) ของคุณ คุณจะเลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นระบบจะให้คุณกรอกรายละเอียดของโปรโมชั่นของคุณ รวมถึงต้องตั้งค่าข้อมูลต่างๆ เช่น กลุ่มเป้าหมาย (ผู้ที่คุณต้องการให้เข้าถึง), งบประมาณ (ค่าใช้จ่ายที่ต้องการ), ระยะเวลา (ระยะเวลาที่คุณต้องการให้แสดงโปรโมชั่นของคุณ) เมื่อคุณได้ทำรายการเหล่านี้สมบูรณ์ทั้งหมดแล้วก็คลิก “ถัดไป”
- จะปรากฏหน้าต่าง “คุณดำเนินการครบหมดแล้ว” เมื่อคุณตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว คลิก “สร้างการโปรโมท” ได้เลย
- หลังจากนั้นระบบจะตรวจสอบการโปรโมทของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตาม “นโยบายโฆษณา” ของทาง Instagram โดยทั่วไปการโปรโมทจะได้รับการตรวจพิจารณาใน 60 นาที แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น
- หลังจากผ่านการตรวจสอบและอนุมัติแล้ว โปรโมชั่นของคุณก็จะเริ่มต้นแสดงในหน้าฟีดของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตามที่คุณกำหนด
| ข้อมูลเชิงลึก “Insight”
ถ้าใช้ Profile Account ใน Instagram สิ่งหนึ่งที่จะไม่เคยได้จากระบบเลยคือการได้มาซึ่งข้อมูลเบื้องลึกสำหรับการวัดผลว่ารูปที่ขึ้นไปได้ผลตอบรับจากลูกค้าอย่างไร ซึ่ง Instagram สำหรับธุรกิจนั้นสามารถให้ผลข้อมูล Insight ต่างๆ ได้เพียงคุณเข้าไปที่หน้า Profile Business Account เลือกโพสต์ใดโพสต์หนึ่งของคุณ แล้วคลิกเข้าไปที่ “ข้อมูลเชิงลึก”
จากภาพตัวอย่างประกอบ ตามที่ระบุตัวเลขจำนวน 4 จุด นั่นคือ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการโพสต์ ซึ่งแต่ละไอคอนมีความหมายดังนี้
- หมายเลข 1 : แสดงให้เห็นจำนวนคนที่เข้ามาชมและถูกใจโพสต์ของคุณ
- หมายเลข 2 : แสดงให้เห็นจำนวนคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของคุณ
- หมายเลข 3 : แสดงให้เห็นจำนวนคนที่เข้ามาแชร์โพสต์ของคุณ
- หมายเลข 4 : แสดงให้เห็นจำนวนคนที่เข้ามาบันทึกโพสต์ของคุณ
| Business Account สามารถดูข้อมูลเชิงลึกของการโพสต์ใน Instagram ได้ มีรายละเอียดดังนี้
- Impressions : จำนวน “ครั้ง” ที่คอนเทนต์ของคุณถูกนำไปแสดงและถูกเห็นโดยคนที่เล่น Instagram
- Reach : จำนวน “คน” ที่เข้าถึงคอนเทนต์ของคุณ จะนับเป็นจำนวนคนที่เห็นโฆษณาของคุณนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณยิงโฆษณาออกไป มีคนเห็นจำนวน 1 คน แต่ถ้าคนเดิมเห็นโฆษณานี้ซ้ำจำนวน 5 ครั้ง ก็จะนับเป็น 1 Reach และ 5 Impressions (Reach มักจะน้อยกว่าจำนวน Impression และ Followers)
- Website Clicks : จำนวนครั้งที่ผู้ใช้ Clicks Link ที่อยู่บน Instagram Business Profile ของคุณ (ในกรณีที่คุณมีการลงโฆษณาประเภทที่คนสามารถกดดูข้อมูลต่อได้)
- Profile Visits : จำนวนครั้งที่ผู้ใช้เข้าถึงหน้า Profile Business Account ของคุณ
- Followers : แสดงให้เห็นว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา Instagram Account ของคุณจะแจ้งว่า มียอด Followers เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงเท่าไร ตำแหน่งที่ตั้งยอดนิยม, ช่วงอายุ, เพศ และช่วงเวลาในแต่ละวันที่ Followers ของคุณใช้ Instagram
สถิติเหล่านี้จะเป็นข้อมูลอย่างดีให้คุณได้รู้ว่าปัจจุบัน Instagram ของคุณมีความเคลื่อนไหวอย่างไร โพสต์ของคุณเข้าถึงผู้คนได้มากแค่ไหน สินค้าของคุณเข้าถึงคนที่สนใจจริงๆ เป็นจำนวนเท่ไร เป็นต้น เพราะอย่าลืมว่าจำนวน Followers อาจจะสวนทางกับจำนวนที่คนเห็นก็เป็นได้ เช่น บางร้านค้าอาจจะมี Followers เยอะ แต่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของทางร้าน ก็อาจทำให้มีคนเข้าชมโพสต์นั้นๆ แค่เพียงจำหนวนหนึ่ง
การได้เห็นสถิติพฤติกรรมของ Followers เหล่านี้จะทำให้คุณเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นว่า คุณควรจะโพสต์ในช่วงเวลาไหน เพราะช่วงเวลาที่ Followers ของคุณไม่ค่อยใช้งานก็คงเป็นตัวเลือกเรื่องเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ขณะเดียวกันก็ต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่าในช่วงเวลาที่ผู้คนเข้ามาใช้งานกันอย่างหนาแน่นนั้น จะมีคอนเทนต์ของร้านค้าอื่นๆ มาใช้พื้นที่โปรโมทพร้อมกันด้วยหรือเปล่า
การโปรโมทร้านอาหารหรือสินค้าบน Instagram คุณควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะแก่การโพสต์ ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดร้านอาหาร คุณก็ควรจะโพสต์ในเวลาก่อนพักเที่ยงเล็กน้อย และช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ควรหมั่นลงรูปอาหาร รีวิวจากลูกค้า โปรโมชั่น และข่าวสารของร้าน เพื่อดึงดูดความสนใจและให้ลูกค้าที่กดติดตามเราได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งเมนูใหม่ๆ ของร้านคุณ เมื่อผู้ติดตามเห็นแล้วถูกใจก็จะมีการบอกต่อกันไป ส่งผลให้ Instagram ของคุณมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ที่สุดแล้ว เครื่องมืออย่าง Instagram กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และเจ้าของธุรกิจต้องหาทางที่จะครองใจผู้บริโภคเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ด้วยตัวเลือกอย่าง Business Account นี่เอง ก็มีข้อดีหลายอย่างที่จะเชื่อมสินค้ากับผู้บริโภคเข้าด้วยกัน และช่วยจัดการธุรกิจของคุณให้เข้าถึงลูกค้าในโลกออนไลน์ได้มากขึ้น ถืปเป็นการรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับเรา และได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกันด้วย
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจการสร้างร้านค้าในเพจ Facebook สามารถติดตามขั้นตอนการทำเพจร้านค้าใน Facebook เพื่อโปรโมทร้านอาหารของคุณได้ เพียง คลิกที่นี่
ที่มา : ข้อมูลจาก : digitalmarketingwow, nuttaputch, beartai.com, business.instagram, marketingoops.com / ภาพจาก : prungdilivery, ข้าวคลุกกะปิคุณแม่
Pingback: Editor’s Talk : ใช้ IG โปรโมทร้าน – :: True Smart Merchant Academy ::