ร้านอาหารบางร้านออกแบบร้านสวยงาม อาหารอร่อย แถมยังให้บริการดี แต่การออกแบบเมนูกลับไม่ชวนให้ดึงดูดสายตาของลูกค้าเลย มองเผินๆ อาจจะคิดว่าการออกแบบเมนูเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสักเท่าไร แต่ความจริงแล้ว การออกแบบเมนูให้สวยงามนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยให้เมนูอาหารมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น หลายครั้งหลายคราที่เราเดินเข้าไปในร้านอาหารบางร้าน เมื่อเปิดเมนูดูแล้วก็รู้สึกว่าแต่ละเมนูดูน่ากินไปหมด ในขณะที่บางร้านแค่เห็นเมนูก็ไม่รู้สึกอยากอาหารไปเลย นั่นเป็นเพราะเมนูเหล่านั้นไม่ได้ใช้เทคนิคการออกแบบที่ดี จึงไม่ชวนให้รู้สึกอยากรับประทานนั่นเอง
การออกแบบเมนูที่เห็นแล้วชวนให้อยากอาหารนั้นมีหลากหลายเทคนิค ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมการใช้หลักจิตวิทยาและหลักการต่างๆ ในการออกแบบเมนูมานำเสนอดังนี้
| สีสื่อความหมายต่อผู้บริโภค
ผู้ประกอบการหลายท่านคงทราบดีว่า “สี” มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของมนุษย์เป็นอย่างมาก นอกจากจะสามารถสื่อถึงความหมายต่างๆ ได้ดีแล้ว ยังช่วยสามารถกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากอาหาร หรือตรงกันข้ามก็ทำให้ลูกค้าไม่อยากอาหารได้เช่นกัน ฉะนั้นการเลือกสีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของร้านอาหารควรพิจารณาให้ดี ควรเลือกใช้สีให้เหมาะสมกับการออกแบบเมนูอาหารของร้านของคุณ โดยสีที่ใช้กันมาก ได้แก่
- สีส้ม : ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ชวนให้รู้สึกหิว
- สีเขียว : สื่อความหมายถึงความสดชื่น ความสดของอาหาร และความสะอาด
- สีแดง : ช่วยกระตุ้นความอยากซื้อ
- สีเหลือง : สื่อถึงความสุข ช่วยดึงดูดสายตาลูกค้าได้ดี
| ชื่อเมนูสร้างความน่าสนใจ
การใช้ชื่อเมนูแปลกจะสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าเอาไว้ได้ เกิดความรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ เริ่มคิดว่าเมนูนี้จะมีหน้าตาอย่างไร เช่น หมูสะท้านโลก พระจันทร์ตกน้ำ เปรี้ยวซ่าสะใจ การใช้คำในลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากสั่งอาหารได้มากทีเดียว ลองคิดคำเด็ดๆ แล้วใส่ลงไปในเมนูที่คุณอยากขาย แต่อย่าใส่ลูกเล่นมากเกินไปจนเกินเลยอาหาร เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้ และอาจเข้าถึงเมนูนั้นได้ยาก ที่สำคัญใช้กับเมนูแนะนำ หรือเมนูพิเศษเฉพาะของทางร้านก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้กับทุกรายการ
| ทฤษฎีสามเหลี่ยมทองคำ
ทฤษฎี “สามเหลี่ยมทองคำ หรือ Golden Triangle” ในที่นี้ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นการออกแบบเมนูอาหารที่นำทฤษฎีนี้มาปรับใช้ กล่าวคือ โดยปกติแล้วสายตาของคนเรามักจะมองเมนูอาหารตรงไปยังบริเวณกึ่่งกลางก่อน แล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาไปด้านขวาบน และสุดท้ายจะหยุดสายตาที่ด้านซ้ายบน หากสังเกตให้ดีจะพบว่าสายตาที่มองเมนูอาหารจะเป็นรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ ฉะนั้นคุณควรใส่เมนูที่โดดเด่น และต้องการให้ลูกค้าสั่งมากที่สุดในบริเวณ 3 จุดนี้ รับรองว่าได้ผลแน่นอน!
| สร้างเรื่องราวของเมนู
การแนะนำเมนูเด่น เมนูฮิตประจำร้าน เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกร้านต้องมี แต่สิ่งที่ทำให้ร้านแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปคือ “เรื่องราว” สำหรับการนำเสนอเมนูนั้นๆ เพราะหากลูกค้าได้รับรู้ที่มีที่ไปของอาหาร รู้เรื่องราวก่อนจะมาเป็นเมนูเด็ดเมนูนี้ของทางร้าน ก็จะทำให้อาหารจานนั้นดูไม่ธรรมดาขึ้นทันที เช่น เมนูเด็ดของร้านคือ “กุ้งอบวุ้นเส้น” อาจตั้งชื่อเมนูว่า กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดินท่าดินแดงเจ้าเก่า กุ้งอบวุ้นเส้นภูเขาไฟ หรือจากที่เราสามารถเห็นได้จากวิดีโอที่เปิดภายในร้าน บอกเล่าถึงตำนานความอร่อย สูตรเด็ดจากทางร้านที่เก่าแก่ สืบทอดต่อกันมาจนเป็นตำนาน เป็นต้น เรื่องราวเหล่านี้จะช่วยเพิ่มคุณค่าของอาหาร ยิ่งถ้ารสชาติอร่อยถูกปากจนเป็นที่บอกต่อกันไป ร้านอาหารและเมนูของร้านคุณก็จะยิ่งเป็นที่จดจำ
| วัสดุของเมนูส่งผลต่อภาพลักษณ์
หากสังเกตให้ดีจะพบว่าร้านอาหารระดับ Hi-end ส่วนใหญ่ มักใช้กระดาษแข็งหรือแผ่นหนังที่หนาและคุณภาพดีมาทำเมนู เพราะวัสดุเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดีของร้านอาหารด้วยเช่นกัน แค่เห็นภายนอกผู้บริโภคก็จะรู้สึกว่าอาหารทุกจานที่ได้รับต้องมีคุณภาพสูงตามวัสดุที่ใช้ทำเมนูอาหารไปด้วย การเลือกวัสดุที่ดีย่อมแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของร้าน และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
รู้อย่างนี้แล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารที่กำลังคิดจะออกแบบเมนู หรือกำลังจะทำเมนูใหม่ ก็สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ได้ เพื่อเพิ่มให้เมนูมีความน่าสนใจและดึงดูดสายตาของลูกค้าได้มากขึ้น เมื่อเมนูเป็นจุดเริ่มต้นของการสั่งอาหาร หากสามารถทำได้ประทับใจลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น ก็จะเกิดความรู้สึกอยากสั่งอาหารทันที ยิ่งรูปภาพอาหารน่ารับประทานด้วยแล้วก็จะยิ่งส่งผลดีต่อทางร้าน
ที่มา : ข้อมูลจาก amarinacademy, foodmenu, smartsme
Pingback: EP35. หลักการออกแบบเมนูสำหรับธุรกิจร้านอาหาร (4 นาที) – :: True Smart Merchant Academy ::