เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ายังคงอุดหนุนอาหารจากร้านเดิมเป็นประจำ นั่นคือ “อาหารรสชาติอร่อย” ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น ส่วนผสม ปริมาณ ราคา ไม่ใช่ว่าไม่ต้องใส่ใจ แต่เป็นเรื่องสำคัญรองลงมาจากรสชาติเท่านั้น เมื่อรสชาติอาหารเป็นตัวชูโรง แต่ปัญหาที่หลายๆ ร้านมักประสบก็คือ รสมือของเชฟไม่เหมือนเดิม เมื่อรสชาติเปลี่ยนไปไม่ถูกใจเหมือนครั้งที่แล้ว ลูกค้าย่อมหายไปเป็นธรรมดา ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
จะเห็นได้จากร้านอาหารมากมายที่อยู่มานาน เก่าแก่มาเป็น 40-50 ปีก็มี ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่นต่อกี่รุ่นลูกค้าก็ยังคงอุดหนุนเนืองแน่น นั่นเพราะอาหารของเขาอร่อยเหมือนเดิม อีกกรณีหนึ่งสำหรับร้านที่เป็นธุรกิจหลายสาขา จะเห็นได้ว่าขายดิบขายดีอยู่ทุกวัน และไม่ว่าจะไปที่สาขาไหนรสชาติก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งจากตัวอย่างทั้งหมดนี้ ร้านอาหารของเขาสามารถรักษารสชาติอาหารให้คงที่ไว้ได้อย่างไร เรามี 3 วิธีมาบอกต่อที่จะทำให้ร้านของคุณสามารถรักษามาตรฐานของรสชาติให้เหมือนเดิมทุกวันเอาไว้ได้
| คงความสดสะอาดของวัตถุดิบเอาไว้
พื้นฐานของร้านอาหารทุกร้านย่อมหนีไม่พ้นวัตถุดิบที่สดสะอาด ร้านอาหารจะต้องเลือกซื้อจากแหล่งขายที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน หมั่นตรวจสอบวัตถุดิบและเช็กสต็อกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีวัตถุดิบที่คงค้างนานเกินไปจนกระทั่งวัตถุดิบเน่าเสีย ทั้งยังต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมตามประเภทของวัตถุดิบ เมื่อวัตถุดิบยังมีความสดใหม่ อาหารที่ถูกปรุงย่อมต้องมีรสชาติดี ความหอมกรุ่นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความสะอาดด้านอื่นๆ เช่น พื้นที่ครัว สุขอนามัยของเชฟด้วย
| คู่มือประกอบอาหาร พร้อมอุปกรณ์ชั่งตวง
ขึ้นชื่อว่า ‘มาตรฐาน’ นั่นย่อมหมายถึงว่า รสชาติอาหารของร้านต้องคงที่ ไม่ว่าจะปรุงวันไหนเมื่อไรก็ตาม ในเมื่อรสมือของเชฟแต่ละคนไม่เหมือนกัน การมีคู่มือที่ระบุวัตถุดิบและเครื่องปรุงอย่างชัดเจน จะช่วยได้มากสำหรับให้รสชาติอาหารคงที่ ใช้พร้อมกับอุปกรณ์ชั่งตวงสำหรับวัดปริมาณให้อาหารทุกจานใช้วัตถุดิบเท่ากัน ใช้เครื่องปรุงในอัตราส่วนเท่ากัน สมมติว่าร้านของคุณมีเชฟสลับหมุนเวียน 3 คน ดังนั้นเมื่อใช้สูตรเดียวกัน ชั่งตวงวัดเท่ากันทุกครั้ง ปรุงอาหารตามลำดับขั้นตอนเดียวกัน เช่นนี้แล้วก็เป็นไปได้ยากที่รสชาติอาหารจะไม่คงเดิม
ควรอัปเดตคู่มือประกอบอาหารทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนสูตร เช่น เปลี่ยนแปลงเครื่องปรุง หรือวัตถุดิบแบบเดิมหาไม่ได้แล้ว
| ทดสอบรสชาติอาหารแบบสุ่มเป็นประจำ
ผู้ประกอบการควรสุ่มชิมรสชาติอาหารอยู่เสมอ จะให้ดีไม่ควรสั่งทำอาหารแบบเป็นกิจจะลักษณะ ควรทดสอบแบบไม่ให้เชฟรู้ตัว เพื่อจะได้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า อาหารยังมีรสชาติคงเดิมหรือไม่ นอกจากนี้จะยังสามารถพิจารณาในส่วนของปริมาณอาหาร หรือประเภทของวัตถุดิบได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้อาหารของทางร้านยังคงมาตรฐานเอาไว้ได้เสมอ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานเท่าใด หรือเชฟจะเปลี่ยนไปกึ่คนแล้วก็ตาม แล้วหากพบข้อควรปรับปรุงหรือมีอะไรผิดพลาดไป ก็จะได้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที และเชฟหรือพนักงานภายในร้านในส่วนของวัตถุดิบเองก็จะได้ระมัดระวังมากขึ้น
สำหรับร้านอาหารที่มีหลายสาขาก็สามารถสร้างครัวกลางขึ้นมา เพื่อกระจายวัตถุดิบและอาหารออกไปยังสาขาต่างๆ ได้ เพื่อให้ทุกร้านมีรสชาติอาหารเหมือนกัน รวมถึงลูกค้าที่ไม่ว่าจะไปกินสาขาไหน เมื่อสั่งแบบเดิมก็ยังได้อาหารรสชาติเดิม แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาถึงการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วยว่าคุ้มค่าหรือไม่
เมื่อร้านอาหารสามารถเสิร์ฟอาหารด้วยรสชาติคงเดิมที่ลูกค้าชื่นชอบ แน่นอนว่าลูกค้าคนเดิมจะยังคงมาใช้บริการร้านอาหารของเราดังเดิมด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะมีร้านอื่นที่ขายอาหารแบบเดียวกันแต่ราคาถูกกว่าก็ตาม เพราะลูกค้าเชื่อมั่นแล้วว่าร้านของเราที่ลูกค้าโปรดปราน รสมือถูกปาก รสชาติเหมือนเดิมทุกครั้ง เช่นนี้แล้วลูกค้าคนสำคัญจะไปไหนเสีย
ที่มา : ข้อมูลจาก amarinacademy, เพื่อนแท้ร้านอาหาร
Pingback: EP14. การสร้างมาตรฐานให้รสชาติอาหารคงเดิม (3 นาที) – :: True Smart Merchant Academy ::