เลือก Location ร้านอาหารดี มีชัยไปกว่าครึ่ง


“ธุรกิจร้านอาหาร” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ ซึ่งทุกคนก็ต้องเริ่มจากการมองหา Location หรือ ทำเลที่ตั้งของร้านอาหารเป็นอับดับแรก เพราะไม่ใช่ทุกพื้นที่จะเหมาะเป็นทำเลสำหรับร้านอาหารได้ บางพื้นที่ติดถนนบริเวณใจกลางเมือง มีผู้คนมากมายเดินผ่านแต่อาจเป็นจุดที่โดนคนเมินมากที่สุด ขณะเดียวกันทำเลที่คุณคิดว่าไม่น่าจะมีผู้คนมากนัก ก็อาจกลับกลายเป็นพื้นที่ทำกำไรให้คุณอย่างมหาศาลได้เช่นกัน วันนี้เรามีวิธีการคิดวิเคราะห์ ที่จะเป็นแนวทางในการเลือกทำเลร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้มานำเสนอ มาดูกันว่าสอดคล้องกับตัวเลือก Location ในใจของคุณบ้างหรือยัง?

 

 

| กลุ่มลูกค้าที่คุณมองหาอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ (Customer Location)

บางทำเลมีผู้คนขวักไขว่แต่อาจไม่เหมาะกับร้านของคุณก็ได้ ถ้าหากคนเหล่านั้นไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่คุณกำลังมองหา ฉะนั้นก่อนที่จะเลือกทำเลใดๆ คุณต้องรู้ก่อนว่าจะขายใคร เช่น พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวขาจร เป็นต้น แล้วในทำเลนั้นมีกลุ่มลูกค้าที่คุณมองหาอยู่หรือไม่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนแถวนั้นเป็นอย่างไร การหาข้อมูลที่ดีที่สุดคือการเข้าไปนั่งในร้านอาหารสักร้านหนึ่งในย่านที่คุณสนใจ แล้วสังเกตกลุ่มลูกค้าของร้านนั้น นอกจากนี้คุณควรหาข้อมูลในบริเวณนั้นๆ ว่ามีตึกออฟฟิศมากหรือไม่ กลางวันคนเหล่านี้ไปรับประทานอาหารกันที่ไหน หากคุณเก็บข้อมูลกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการได้ก็จะช่วยให้ง่ายต่อการเลือกทำเลของร้าน

 

| ความสะดวกในการเข้าถึง (Accessibility)

เป็นอีกข้อหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาทำเลร้านอาหาร ลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยเฉพาะทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า หรือเป็นย่านที่ผู้คนเดินกันคับคั่งก็ยิ่งเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย แต่หากร้านอาหารของคุณอยู่แถบชานเมืองที่จำเป็นต้องขับรถไปกินเท่านั้น การเลือกทำเลที่ติดถนนสายหลักใหญ่ๆ ก็สามารถช่วยให้เข้าถึงร้านอาหารของคุณได้ง่ายขึ้นเช่นกัน และควรคำนึงถึงที่จอดรถเพื่อรองรับรถลูกค้าได้อย่างเพียงพอ ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมีทำเลที่หาง่าย เส้นทางไม่ลึกลับซับซ้อนจนเกินไป

 

 

| สังเกตเห็นได้ง่าย (Visibility)

การเปิดร้านอาหารในตำแหน่งพื้นที่ที่เห็นได้ชัดเจน ไม่อยู่ในที่ลับตาคน สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายแม้ว่าลูกค้าจะไม่เชี่ยวชาญเส้นทางแถวนี้มาก่อน นับว่าเป็นทำเลที่ดีและเหมาะต่อการเปิดร้านอาหาร แต่หากร้านของคุณต้องเข้าซอยไปอีกสักนิด คุณก็สามารถใช้วิธีติดป้ายร้านขนาดใหญ่ไว้ริมถนน เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมารู้สึกคุ้นตาและรับรู้ แม้ว่าวันนี้เขาอาจจะยังไม่ตัดสินใจเดินเข้าร้านอาหารของคุณ แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถจดจำชื่อร้านและตำแหน่งร้านอาหารของคุณได้แล้ว

 

| ทำความรู้จักเพื่อนบ้าน (Partners and Competitors)

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกทำเลใดๆ ก็ตาม คุณต้องเก็บข้อมูลของร้านในละแวกใกล้เคียงด้วยว่าเขาทำธุรกิจอะไรกันบ้าง หากมีคนทำธุรกิจเดียวกันกับคุณมากถึง 5-6 ร้าน ก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าคุณมีกำลังมากพอที่จะต่อสู้ในเรื่องฐานลูกค้าและยอดขายกับร้านเหล่านั้นไหวหรือไม่ นอกจากนี้คุณต้องดูให้ดีว่าร้านส่วนใหญ่ในละแวกนั้นเงียบเหงาหรือคึกคัก หากว่ามีลูกค้ามากหรือคนเดินเข้าร้านอย่างสม่ำเสมอ คุณก็มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จตามได้ง่าย

 

 

| ค่าเช่าที่งอกได้ (Space Rental)

หากทำการเช่าพื้นที่แทนการซื้อ คุณควรสอบถามให้ละเอียดก่อนว่านอกจากค่าเช่าร้านที่ต้องจ่ายทุกเดือนแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากนี้อีกไหม เนื่องจากหลายคนถึงกับถอดใจเมื่อมารู้ทีหลังว่ามีค่าส่วนกลาง และค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าเช่า หากต่อรองได้ก็ควรต่อรองก่อน พร้อมกับลงบันทึกในสัญญาให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลังจากทำสัญญาเช่าได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะเป็นการเพิ่มภาระทางการเงิน และอาจกระทบถึงค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้โดยตรง

 

| วางแผนก่อนเซ็นสัญญา (Period of Time)

ก่อนจะลงชื่อเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ เชื่อว่าคงไม่มีผู้ประกอบการรายใดอยากปิดกิจการในระยะเวลาอันสั้นเป็นแน่ ดังนั้นคุณจึงต้องวางแผนให้ดีและวางแผนเผื่ออนาคตไว้ด้วย เริ่มต้นคุณต้องประเมินได้ว่าร้านอาหารของคุณจะเปิดสักกี่ปี ถ้าจะไม่เป็นการเสี่ยงมากเกินไปคุณควรเริ่มต้นการเซ็นสัญญาเช่าในระยะ 2-3 ปี แนะนำเพิ่มเติมว่าให้สังเกตเงื่อนไขการต่อสัญญาเช่าว่ามีการระบุต่อสัญญาอัตโนมัติหรือไม่ มีเงื่อนไขใดระบุไว้บ้าง ป้องกันสิ่งที่เราไม่ได้เจรจาแอบแฝงอยู่ รวมถึงสัญญาซื้อขายด้วย (ถ้ามี) ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรประมาทในเรื่องที่มีผลทางกฎหมาย อย่าคิดเพียงว่าเปิดไปก่อนโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดและวางแผนใดๆ เลย เพราะท้ายที่สุดหากร้านอาหารของคุณไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คิด มีเหตุให้ต้องล้มเลิกกิจการไปก่อน คุณจะได้นำแผนสำรองที่เตรียมไว้มาคิดพิจารณาและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าเช่าให้ครบตามกำหนดสัญญา ค่าประกันความเสียหายของร้าน หรืออื่นใดที่คุณจะต้องจ่ายนอกเหนือจากค่าเช่า แต่ถ้าหากร้านของคุณสามารถทำกำไรได้ดีก็ค่อยขยายระยะเวลาสัญญา เจรจาการเช่าที่กันใหม่แบบยาวๆ กันไปเลย ก่อนจะถึงเวลานั้นการรอบคอบไว้ก่อน ไม่เสียหายเลยสักนิด

 

ทั้งหมดนี้คือหัวใจหลักที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการเลือกทำเลเปิดร้านอาหาร แต่อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ เพราะทำเลร้านอาหารที่คุณเลือกจะอยู่กับคุณในระยะยาว ซึ่งหากคุณเลือกแล้วนั่นย่อมหมายความว่าคุณไม่อาจเปลี่ยนใจได้อีก แต่หากคุณเลือกทำเลที่เหมาะสมแก่การเปิดร้านอาหารในสไตล์ของคุณแล้วนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ก้าวแรกอาจทุลักทุเลเป็นเรื่องธรรมดา แต่หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างเข้าที่ อะไรก็จะราบรื่นขึ้น เชื่อเถอะว่า…แค่เริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว!

 

ที่มา : ข้อมูลจาก amarinacademy, foodstory, cedarsseattle, nextech

2 Comments

Leave a Reply