ขายดี เพิ่มกำไร… ด้วยหลัก 3 ดี


ขายดี!! กำไรงาม!! ใครบ้างไม่อยากได้ ?
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าโดยทั่วไปแล้ว การขายดีแบบเทน้ำเทท่านั้นย่อมเป็นที่ปรารถนาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หรือเป็นธุระกิจขนาดใหญ่ เพราะท่ามกลางเวลา ต้นทุน และหยาดเหงื่อแรงกายที่ลงงานไป เราต่างรู้กันดีว่าผลกำไรที่ได้รับนั้น ทำให้เราภูมิใจอยู่ไม่ใช่น้อย แถมยังช่วยให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แต่เดี๋ยวก่อน … จะทำกำไรงามๆ ได้นั้น ย่อมมีเคล็ดลับกันเป็นธรรมดา วันนี้เราจึงอยากเสนอวิธีการตั้งราคาสินค้าเพื่อให้ขายดี และเพิ่มกำไรไปในเวลาเดียวกันด้วยวิธีการที่เรียกว่า หลัก 3 ดี

มาดูกันเลยครับว่าตัวช่วยที่ทำให้ร้านค้าขายสินค้าได้ราคาและกำไรมากขึ้นนั้น ต้องมีอะไรดีบ้าง

 


ดีที่ 1 : ราคา (ดี)

คือ ราคาสินค้าพื้นฐานต้องอยู่ใรระดับราคาที่เหมาะสม เปรียบเทียบกับตลาดแล้ว ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่ง และเรายังมีกำไรอยู่

ดีที่ 2 : เพิ่มตัวเลือก (ดีกว่า)

คือ การเพิ่มลูกเล่น ตัวเลือก หรือท็อปปิ้ง ให้กับสินค้าโดยให้ลูกค้าจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากราคาปกติ เพื่อแลกกับการได้บางอย่างเพิ่มเข้ามาในสินค้า ตัวอย่างเช่น ชานมไข่มุก ที่มีการเพิ่มไข่มุก หรือท็อปปิ้งอื่นๆ เป็นตัวเลือก เพื่อเพิ่มมูลค่า และโอกาสในการขยับราคาสินค้าให้สูงขึ้นได้ในคราวเดียวกัน

ดีที่ 3 : พิเศษสุด (ดีที่สุด)

หากเพิ่มตัวเลือกแล้วลูกค้ายังมีความต้องการอยู่ หรือต้องการอะไรที่พิเศษกว่า เราต้องมีสิ่งที่ดีกว่าดีที่ 2 ที่เรียกได้ว่า ดีที่สุด เช่น ชานมใส่ไข่มุก ที่ไม่ใช่มุกธรรมดาทั่วไป เป็นมุกพรีเมียมสั่งตรงมาจากไต้หวัน หรือร้านอาหาร นอกจากจะมีข้าวผัดหมู ที่ใส่ไข่ดาวแล้ว ยังอาจจะมี ข้าวผัดเนื้อ หรือ ข้าวผัดซีฟู้ดที่มาพร้อมกุ้งตัวโตๆ ปลาหมึกเนื้อแน่ๆ เป็นเมนูพิเศษ ซึ่งถ้าตรงกับความต้องการของลูกค้าเค้าก็ยอมที่จะจ่ายเพิ่ม เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดที่เค้าต้องการ


 

Tips : เพื่อเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด อาจจะมีเทคนิคในการตั้งราคาสินค้าแบบที่สองและแบบที่สามให้ดูต่างกันไม่มาก ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย แต่คุ้มค่ากว่า สุดท้ายลูกค้าจะเลืิอกแบบที่สามที่ราคาแพงที่สุด

 


เครดิต : เนื้อหาบางส่วนจาก FB Fanpage : ถามอีก กับอิก Tam-Eig (https://www.facebook.com/Tam.eig)

Leave a Reply